ไวรัส RSV คืออะไร

ไวรัส RSV

เชื้อไวรัสRSV (Respiratory Syncytial Virus )

เชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus ) เป็นโรคระบาดในเด็กเล็กอยู่ทุกปีในช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว เชื้อไวรัสนี้จะทำให้เด็ก ๆ มีไข้หวัด หลอดลมอักเสบ ซึ่งอาการจะคล้ายคลึงกับไข้หวัดธรรมดา แต่จะมีปัญหามากเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ มีอาการอักเสบของหลอดลม ทำให้หอบเหนื่อย หายใจครืดคราด ตัวเขียว มีเสมหะมาก ไอ และ ทานอาหารได้น้อยลงกว่าเดิมมาก อารมณ์ไม่ดีเหมือนปกติ หรือหายใจแรงจนหน้าอกบุ๋ม ในเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปีพบว่าอาจมีอาการปอดอักเสบร่วมด้วย ทั้งนี้โรคนี้เป็นโรคติดต่อที่เด็ก ๆ สามารถติดกันได้ง่าย เพราะการแพร่เชื้อ มีลักษณะคล้ายกับ Covid-19 ที่เกิดจากการสัมผัส หรือจากสารคัดหลั่งที่มาจาก การไอ-จาม ทานอาหาร หรือสัมผัสสิ่งของร่วมกัน และในปลายปี พ.ศ. 2563 พบว่าจำนวนการติดเชื้อ RSV ในเด็กมีมากกว่าจำนวนการติดเชื้อ covid-19 ของเด็ก

วิธีสังเกตุอาการเบื้องต้นของ RSV

หลังจากติดเชื้อประมาณ 4-6 วัน ผู้ติดเชื้อจะมีอาการดังนี้ มีไข้ ไอเจ็บคอ มีน้ำมูก

  • มีน้ำมูกใสนิดหน่อย เหมือนเป็นหวัด เป็นประมาณ 2-3 วัน
  • ตัวรุม ๆ อุ่น ๆ ตาโรย ๆ เหมือนมีอาการไข้ ซึม
  • มีเสมหะในลำคอ ตอนหายใจมีเสียงครืดคราด น้ำมูกเริ่มข้น
  • เวลานอนมีเสียงหายใจครืดคราด คล้าย ๆ กรน
  • กลางคืนมีไข้สูง 30-40 เช็ดตัวหรือกินยาไข้ไม่ลด เริ่มไอเหมือนมีเสลดในลำคอ
    อาการรุนแรง : หายใจเร็ว หายใจหอบ เบื่ออาหาร เซื่องซึม หากมีอาการรุนแรงควรพบแพทย์ทันที

ไวรัส RSV สามารถป้องกันได้ดังนี้

เนื่องจากไวรัส RSV ตัวนี้ยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันได้โดยตรง สิ่งที่เราควรทำคือ
1. เลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย ล้างมือบ่อย ๆ หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่อ่อน ๆ
2. ให้เด็กเลี่ยงการสัมผัสหน้าของตนเอง รักษาสุขอนามัยและไม่ใช้ของร่วมกัน
3. ผู้ปกครองล้างทำความสะอาดพื้นผิวเสมอ ทำความสะอาดของใช้ ของเล่นและซักผ้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
4. หากรู้ว่าเด็กป่วยให้เด็กพักอยู่กับบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการกระจายเชื้อโรค หลีกเลี่ยงการสัมผัส ใกล้ชิดผู้มีอาการป่วยและการไปสถานที่แอัด
5. รักษาสุขอนามัย และไม่ใช้ของใช้ร่วมกัน

อาการแทรกซ้อนของไวรัส RSV

เนื่องจากไวรัส RSV ชนิดนี้ยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันโรค RSV และในปัจจุบันยังไม่มียาในการรักษาที่เฉพาะเจาะจง โดยจำเป็นต้องอาศัยการประเมินอาการจากแพทย์ และทำการรักษาตามอาการของเด็ก โดยใช้ยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอละลายเสมหะ เด็กสามารถหายเองได้ ไม่มีวัคซีนในการป้องกัน
การป้องกันที่ดีที่สุดคือ ดูแลความสะอาดและสุขอนามัยในเด็กเล็ก การติดเชื้อในเด็กส่วนมากจะเกิดในโรงเรียนอนุบาล ที่เด็กอยู่ร่วมกันควรดูแลรักษาความสะอาดและสุขอนามัย ให้มีอากาศถ่ายเทได้ดี การมีประกันสุขภาพไม่สามารถป้องกันให้ลูกไม่เจ็บป่วยได้ แต่สามารถแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลให้ลูกได้ยามเจ็บป่วย

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง